การแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

บริษัท ซีพีแรม จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่ได้มอบให้แก่บริษัทด้วยความไว้วางใจ บริษัทจะดูแลจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทใคร่ขอให้ท่านโปรดอ่านเอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกิจกรรมตามที่ปรากฏอยู่ในหัวข้อดังต่อไปนี้

บริษัท ซีพีแรม จำกัด (“บริษัท”) ได้ให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านได้ส่งมอบให้แก่บริษัท บริษัทจะดูแลจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงใคร่ขอให้ท่านโปรดอ่านเอกสาร ฉบับนี้ เพื่อรับทราบและเข้าใจในวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกิจกรรมตามที่ปรากฎ ดังต่อไปนี้

1. วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูล

  • วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล : บริษัทบันทึกและจัดเก็บข้อมูลภาพกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่บริษัทติดตั้งไว้ภายในบริษัทตลอดจนบริเวณโดยรอบบริษัท ตามมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุอันตรายอันอาจเกิดขึ้น ต่อผู้เข้าใช้บริการและสถานที่ และเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อบริษัท
  • ฐานในการประมวลผลข้อมูล : บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐาน ดังต่อไปนี้

ฐานจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest): บริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่พนักงาน ผู้ใช้บริการ และบุคคลอื่นที่เข้ามาภายในร้านและบริเวณโดย รอบร้าน รวมถึงการดูแลทรัพย์สินของบริษัทไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าออกเขตหวงห้าม รวมถึงใช้ในการสอบสวนเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในอาคารและสถานที่

ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation): บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายตามที่หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายร้องขอ หรือใช้เพื่อเป็นพยานหลักฐานกรณีเกิดเหตุ อาชญากรรม หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในหรือบริเวณอาคารและสถานที่

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการประมวลผลและระยะเวลาในการเก็บรวบรวม

ประเภท/รายการข้อมูลส่วนบุคคลระยะเวลาในการเก็บรวบรวม
ข้อมูลบันทึกภาพและ/หรือเสียงจากกล้องวงจรปิด (CCTV)30 ถึง 45 วัน นับจากวันที่บันทึกข้อมูล

ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาข้างต้น บริษัทจะทำการลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก

บริษัททำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลที่ได้แจ้งไว้ตามข้อ 1 เท่านั้น เช่น พนักงานและบริษัทที่บริษัทได้ว่าจ้างให้ดำเนินการเกี่ยวกับ กล้องวงจรปิด พนักงานและบริษัทรักษาความปลอดภัย เป็นต้น โดยบุคคลเหล่านั้น จะทำหน้าที่เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และอาจจำเป็นต้องเปิดเผยในกรณีที่มีการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พนักงานสอบสวน อัยการ เป็นต้น และอาจเป็นการเปิดเผยให้หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อประโยชน์ในการ ดำเนินคดีของบริษัทเองด้วย

4. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิ (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (2) สิทธิในการเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (3) สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) สิทธิในการคัดค้าน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (5) สิทธิในการขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งไม่อาจระบุตัวตนได้ (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (7) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด (8) สิทธิที่จะร้องเรียนในกรณีที่ท่านเห็นว่าถูกบริษัทหรือเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของบริษัทละเมิดสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อจำกัดกับบริษัทในการทำกับข้อมูลของผู้มาติดต่อ ในกรณีที่ท่านขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูล ระงับ หรือทำให้ข้อมูล ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หรือถอนความยินยอม อาจทำให้เกิดข้อจำกัดกับบริษัทในการทำธุรกรรมกับท่านได้

การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวกับ ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

5. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 การแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ฉบับนี้ อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราว โดยบริษัทจะแสดงฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้บน

6. รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากมีเหตุร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อประสานงานมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ในช่องทางดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เลขที่ 313 อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ ชั้น 24 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
Email Address:
privacy@cpram.co.th

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ซีพีแรม จำกัด
เลขที่ 177 หมู่ 4 ถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี 12140
Email Address:
dpc@cpram.co.th

บริษัท ซีพีแรม จำกัด (“บริษัท”) เคารพในความเป็นส่วนตัวของท่าน และตระหนักถึงความสำคัญและมีความมุ่งมั่นในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้มอบให้แก่บริษัทด้วยความไว้วางใจ รวมถึงบริษัทต้องการแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการและวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (“การประมวลผล”) ของท่าน สิทธิของท่านในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความโปร่งใสชัดเจน และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทขอให้ท่านโปรดอ่านเอกสารฉบับนี้เพื่อความเข้าใจถึงการประมวลผลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หากมีข้อสงสัยประการใดสามารถติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่ปรากฏในเอกสารนี้

1. วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูล

  • วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล: บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านเข้ามาติดต่อธุรกรรมภายในพื้นที่ของบริษัท เพื่อแสดงและยืนยันตัวตนของท่าน อันเป็นการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของท่าน พนักงาน คู่ค้า/ลูกค้า และบุคคลอื่นที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ของบริษัท รวมถึงการสอบสวนเหตุต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่
  • ฐานในการประมวลผลข้อมูล: บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐาน ดังต่อไปนี้
    1. ฐานจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest): บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อแสดงและยืนยันตัวตนของท่าน และดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่พนักงาน คู่ค้า/ลูกค้า และบุคคลอื่นที่เข้ามาภายในบริเวณพื้นที่ของบริษัท รวมถึงดูแลทรัพย์สินของบริษัทไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าออกเขตหวงห้าม รวมถึงใช้ในการสอบสวนต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในอาคารและสถานที่
    2. ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation): บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือตามที่หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายร้องขอ หรือเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานกรณีเกิดเหตุอาชญากรรม หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในหรือบริเวณอาคารและสถานที่

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการประมวลผลและระยะเวลาในการเก็บรวบรวม

ประเภท/รายการข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม
สำนักงานใหญ่ (ลาดหลุมแก้ว)
ชื่อ-นามสกุล, ทะเบียนรถ, เบอร์โทรศัพท์, ชื่อบริษัทต้นสังกัด
- ข้อมูลในระบบ เก็บไว้ 1 ปี
สาขาบ่อเงิน
ชื่อ-นามสกุล, ทะเบียนรถ, เบอร์โทรศัพท์, ชื่อบริษัทต้นสังกัด, ภาพถ่ายบุคคล
- ข้อมูลในระบบเก็บไว้ 1 ปี
- ข้อมูลในเอกสาร 3 เดือน
สาขาลาดกระบัง
ชื่อ-นามสกุล, ทะเบียนรถ, เบอร์โทรศัพท์, ชื่อบริษัทต้นสังกัด, ภาพถ่ายบุคคล
- ข้อมูลในระบบ เก็บไว้ 1 ปี
- ข้อมูลในเอกสาร เก็บไว้ 3 เดือน
สาขาชลบุรี
ชื่อ-นามสกุล, ทะเบียนรถ, เบอร์โทรศัพท์, ชื่อบริษัทต้นสังกัด, ภาพถ่ายบุคคล
- ข้อมูลในระบบ เก็บไว้ 30 วัน
- ข้อมูลในเอกสาร เก็บไว้ 3 เดือน
สาขาขอนแก่น
ชื่อ-นามสกุล, ทะเบียนรถ, เบอร์โทรศัพท์, ชื่อบริษัทต้นสังกัด
- ข้อมูลในระบบ เก็บไว้ 1 ปี
- ข้อมูลในเอกสาร เก็บไว้ 1 ปี
สาขาลำพูน
ชื่อ-นามสกุล, ทะเบียนรถ, เบอร์โทรศัพท์, ชื่อบริษัทต้นสังกัด
- ข้อมูลในเอกสาร เก็บไว้ 1 ปี
สาขาสุราษฎร์ธานี
ชื่อ-นามสกุล, ทะเบียนรถ, เบอร์โทรศัพท์, ชื่อบริษัทต้นสังกัด
- ข้อมูลในเอกสาร เก็บไว้ 6 เดือน

ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาข้างต้น บริษัทจะทำการลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก

บริษัทอาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ใน ข้อ 1. โดยบริษัทอาจส่งข้อมูลของท่านไปยังหน่วยงานกำกับ หน่วยงานของรัฐบาล หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแล เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงยุติธรรม, บุคคลใด ๆ กรณีที่บริษัทต้องเปิดเผยเท่าที่กฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือเป็นไปตาม คำสั่งศาล

4. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิ (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (2) สิทธิในการเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (3) สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (5) สิทธิในการขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งไม่อาจระบุตัวตนได้ (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (7) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด (8) สิทธิที่จะร้องเรียนในกรณีที่ท่านเห็นว่าถูกบริษัทหรือเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของบริษัทละเมิดสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ อาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิของท่านบางประการ โดยบริษัทจะทำการชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้ โดยข้อจำกัดดังกล่าวเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด

การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

5. การเปลี่ยนแปลงPrivacy Notice)

เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 Privacy Notice) ฉบับนี้ อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราว โดยบริษัทจะแสดงฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท

6. รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
เลขที่ 313 อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ ชั้น 24 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
Email Address: privacy@cpall.co.th
บริษัท ซีพีแรม จำกัด
เลขที่ 177 หมู่ที่ 4 ถ.ปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี
Email Address: DPC@cpram.co.th
โทรศัพท์: 02-844-8100 ต่อ 1675

บริษัทได้เก็บรวบรวมและหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ,สำเนาทะเบียนบ้าน ,สำเนาหนังสือเดินทาง ,สำเนาวีซ่า และเอกสารสำคัญใด ๆ ที่มีข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เป็นระยะเวลาทั้งหมด 10 ปี นับจากวันที่สัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบความเป็นตัวตนของคู่ค้าเป็นหลักฐานในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง และเพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ตามสัญญาฉบับนี้เท่านั้น โดยไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกจากสัญญาฉบับนี้ แต่อย่างใด ทั้งนี้หากคู่ค้าไม่ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทจะทำให้การจัดทำสัญญาฉบับนี้ไม่สมบูรณ์ อันเป็นฐานการประมวลผลเพื่อเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาและเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 24 (3),(5)ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

ทั้งนี้คู่ค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลรับทราบว่าตนเองมีสิทธิดังนี้

(1) สิทธิในการเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ทำการเก็บรวบรวมและหรือใช้ได้ ตลอดจนสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

(2) เมื่อพ้นระยะเวลาทั้งหมด 10 ปี นับจากวันที่สัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลง บริษัทจะทำการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

(3) สิทธิในการขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทได้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามวรรคแรกข้างต้น

(4) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

(5) สิทธิในการร้องเรียนบริษัท การใช้สิทธิข้างต้นจะต้องจัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรและแจ้งต่อบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาอันสมควร และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการใช้สิทธิดังกล่าว ตลอดจนสงวนสิทธิในการดำเนินการตาม ข้อเรียกร้องในการใช้สิทธิบางประการอันกระทบกับวัตถุประสงค์ของสัญญาฉบับนี้

2.1 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เลขที่ 313 อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ ชั้น 24 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
Email Address:
privacy@cpram.co.th

2.2 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ซีพีแรม จำกัด
เลขที่ 177 หมู่ 4 ถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี 12140
Email Address:
dpc@cpram.co.th

บริษัท ซีพีแรม จำกัด (“บริษัท”) เคารพในความเป็นส่วนตัวของท่าน และตระหนักถึงความสำคัญและมีความมุ่งมั่นในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้มอบให้แก่บริษัทด้วยความไว้วางใจ รวมถึงบริษัทต้องการแจ้งให้ท่านทราบ ถึงวิธีการและวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (“การประมวลผล”) ของท่าน เมื่อท่านได้แจ้งแจ้งเรื่องร้องเรียนหรือสอบถามผ่านช่องทางรับรับเรื่องของบริษัท สิทธิของท่านในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความโปร่งใสชัดเจน และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทขอให้ท่านโปรดอ่านเอกสารฉบับนี้เพื่อความเข้าใจ ถึงการประมวลผลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หากมีข้อสงสัยประการใดสามารถติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่ปรากฏในเอกสารนี้

วัตถุประสงค์ และ ฐานในการประมวลผลข้อมูล

  • วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล : บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่ท่านเปิดเผยตัวตนและร้องเรียนหรือสอบถามมายังช่องทางการร้องเรียนต่างๆ เช่น ผ่านช่องทางหน้าเว็บเพจ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น เพื่อยืนยันตัวตน การติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจากท่านเพื่อใช้เป็นข้อมูลหรือหลักฐานในการดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงตามที่ท่านร้องเรียนหรือสอบถาม การติดต่อกลับสอบถามเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียนหรือสอบถาม เพื่อแจ้งผลสรุปการดำเนินการตามที่บริษัทได้รับเรื่องจากเท่าน และการสอบสวน รวมถึงการขอให้ท่านให้การเป็นพยานในทางคดี
  • ฐานในการประมวลผลข้อมูล : บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานการประมวลผล ดังต่อไปนี้ ฐานสัญญา (Contract) : บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการให้บริการตามคำขอ ตอบข้อซักถาม ตอบข้อร้องเรียน ยืนยันตัวตนในการใช้บริการ โดยหากท่านไม่ตกลงยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคล จะส่งผลให้การ ดำเนินการดังกล่าวนั้นไม่อาจเกิดขึ้นได้

ฐานจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) : บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยืนยันตัวตน ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจากท่านเพื่อใช้เป็นข้อมูลหรือหลักฐานในการดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง การสอบสวน และการแจ้งกลับผลสรุปการดำเนินการและการสอบสวน การเปิดเผยต่อที่ปรึกษาวิชาชีพ เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมาย เป็นต้น การดำเนินการฟ้องร้องคดีของบริษัท การขอให้ท่านให้การเป็นพยานในคดี ของบริษัท การจัดทำสถิติซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานของบริษัท การจัดทำรายงานการดำเนินงานภายในบริษัท การปรับปรุงการดำเนินงานและระบบการควบคุมภายในของบริษัท โดยข้อมูลของท่านจะได้รับความคุ้มครอง ตามนโยบายของบริษัท

ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) : บริษัทอาจต้องนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายในการเรียกข้อมูลหลักฐานที่บริษัทครอบครองอยู่ได้ เช่น กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล เป็นต้น

ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการประมวลผลและระยะเวลาในการเก็บรวบรวม

ประเภท/รายการข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ-นามสกุล, เบอร์โทร, อีเมล, ที่อยู่ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่อาจปรากฏตามเอกสารที่ท่านแนบมาหรือที่เกี่ยวข้องกับการร้องเรียนและสอบถาม

ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม
ข้อมูลในระบบรับเรื่องร้องเรียนเก็บ 3 ปี กรณีดำเนินการทางกฎหมายจัดเก็บไว้ตามอายุความ ไม่เกิน 10 ปี

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลที่ได้แจ้งไว้ตามข้อ 1 เท่านั้น เช่น ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี รวมถึงหน่วยงานของรัฐ ที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล เป็นต้น หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พนักงานสอบสวน อัยการ เป็นต้น และอาจเป็นการเปิดเผยให้หน่วยงาน ของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีของบริษัทเองด้วย

สิทธิตามกฎหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิ (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (2) สิทธิในการเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (3) สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (5) สิทธิในการขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งไม่อาจระบุตัวตนได้ (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (7)สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด (8) สิทธิที่จะร้องเรียนในกรณีที่ท่านเห็นว่าถูกบริษัทหรือเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของบริษัทละเมิดสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดโดยบริษัท จะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ อาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิของท่านบางประการ โดยบริษัทจะทำการชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้ โดยข้อจำกัดดังกล่าวเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด

การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูล ส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

การแก้ไขเปลี่ยนแปลง

การแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ฉบับนี้ อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง บริษัทจะแสดงฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์

รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากมีเหตุร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อประสานงานมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ในช่องทางดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เลขที่ 313 อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ ชั้น 24 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
Email Address:
privacy@cpram.co.th

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ซีพีแรม จำกัด
เลขที่ 177 หมู่ 4 ถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี 12140
Email Address:
dpc@cpram.co.th

หากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ฉบับนี้ ให้มีผลใช้บังคับในวันเดียวกันกับวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 มีผลใช้บังคับทั้งฉบับ

ศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์ – ซีพีแรม (“ศูนย์การเรียนฯ”) เคารพในความเป็นส่วนตัวของท่าน และตระหนักถึงความสำคัญและมีความมุ่งมั่นในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้มอบให้แก่บริษัทด้วยความไว้วางใจ รวมถึงบริษัทต้องการแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการและวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“การประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สิทธิของท่านในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความโปร่งใสชัดเจน และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทขอให้ท่านโปรดอ่านเอกสารฉบับนี้เพื่อความเข้าใจถึงการประมวลผลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หากมีข้อสงสัยประการใดสามารถติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่ปรากฏในเอกสารนี้

1. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ศูนย์การเรียนฯ จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อใช้ในการสมัครเรียน การทำสัญญารับทุนการศึกษา การทำสัญญามอบตัว การทำเอกสารเข้าพักอาศัยในหอพัก การทำเอกสารการฝึกอาชีพ การทำบัตรนักเรียน การทำเอกสารขอจบการศึกษา และการอื่นใดอันจำเป็นในการปฏิบัติอันเกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน และการฝึกประสบการณ์วิชาชีพตามแผนการจัดการเรียนการสอนระบบทวิภาคี การจัดการและการจัดทำรายงานภายในศูนย์การเรียนฯ การวิเคราะห์วิจัยเพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน การบริหารจัดการมาตรฐานสถานศึกษา การทำคะแนนการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ การบริหารจัดการความเสี่ยง การตรวจสอบภายใน การจัดมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย การจัดทำทะเบียนศิษย์เก่า และการนำส่งหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย

การเก็บข้อมูลจากแหล่งอื่น : ศูนย์การเรียนฯ อาจทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่น เช่น ในสื่อสังคมออนไลน์ สถาบันการศึกษา บุคคลอ้างอิง ตามข้อมูลซึ่งท่านได้ให้ไว้ โดยได้รับความยินยอมจากท่าน

สำหรับผู้สมัครเรียน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับนักเรียน
  • ฐานสัญญา (Contract): ศูนย์การเรียนฯ เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับนักเรียน เพื่อใช้ในการพิจารณาคัดเลือกท่านตามเอกสารการสมัครเรียน ในการตรวจสอบคุณสมบัติ การติดต่อกับผู้สมัคร โดยเป็นการอันจำเป็นเพื่อพิจารณาเข้าเข้ารับทุนการศึกษา หากท่านไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทจะไม่สามารถรับพิจารณาท่านได้
  • ฐานจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest): ศูนย์การเรียนฯ อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการจัดการและการจัดทำรายงานภายในศูนย์การเรียนฯ การวิเคราะห์วิจัยเพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน การบริหารจัดการมาตรฐานสถานศึกษา การทำคะแนนการฝึกปฏิบัติงาน การบริหารจัดการความเสี่ยง การตรวจสอบภายใน การจัดมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย การจัดทำทะเบียนศิษย์เก่า การเปิดเผยต่อสถานศึกษาเครือข่ายหรือตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ที่ทำกับศูนย์การเรียนฯ
  • ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) : ศูนย์การเรียนฯ อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 การฝึกอาชีพตามระเบียบการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี พ.ศ.2557 การจัดการศึกษาเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) ตามคู่มือประกอบการปฏิบัติงานการจัดการศึกษาร่วมหลักสูตร อาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) และเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาว่าด้วยเรื่องมาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี พ.ศ.2557 และ การจัดการศึกษาเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) และกฎหมายอื่นที่ศูนย์การเรียนฯ ต้องอยู่ภายใต้บังคับให้ส่งข้อมูลส่วนบุคคล อันเป็นกรณีฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย
สำหรับนักเรียนทุนศูนย์การเรียนฯ
  • ฐานสัญญา (Contract): ในการสมัครเรียน การทำสัญญารับทุน การทำสัญญามอบตัว การทำสัญญาค้ำประกัน การฝึกอาชีพ การพักอาศัยในหอพัก การปฏิบัติงานตลอดจนการอันจำเป็นเกี่ยวกับการเรียนการสอน และ/หรือนักเรียน ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นหลักฐานหรือข้อมูลอันจำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญา หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว อาจส่งผลกระทบทำให้สัญญาไม่อาจเกิดมีขึ้นได้
  • ฐานความยินยอม (Consent): ศูนย์การเรียนฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อนการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล การเก็บรวบรวมข้อมูลชีวภาพ (Biometrics) เช่น ภาพสแกนใบหน้า ข้อมูลลายนิ้วมือ ในการเข้า-ออกอาคารสำนักงาน และการลงบันทึกเวลาเข้า-ออก การเก็บข้อมูลศาสนา ใบรับรองแพทย์เพื่อใช้สิทธิสวัสดิการของบริษัท ทั้งนี้ หากท่านประสงค์จะถอนความยินยอมท่านสามารถติดต่อศูนย์การเรียนฯ และแจ้งความประสงค์ได้ตาม ข้อ 4.
  • ฐานจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest): ศูนย์การเรียนฯ อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการจัดการและการจัดทำรายงานภายในศูนย์การเรียนฯ การวิเคราะห์วิจัยเพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน การบริหารจัดการมาตรฐานสถานศึกษา การทำคะแนนการฝึกปฏิบัติงาน การบริหารจัดการความเสี่ยง การตรวจสอบภายใน การจัดมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย การจัดทำทะเบียนศิษย์เก่า การเปิดเผยต่อสถานศึกษาเครือข่ายหรือตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ที่ทำกับศูนย์การเรียนฯ
  • ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) : ศูนย์การเรียนฯ อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 การฝึกอาชีพตามระเบียบการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี พ.ศ.2557 การจัดการศึกษาเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) ตามคู่มือประกอบการปฏิบัติงานการจัดการศึกษาร่วมหลักสูตร อาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) และเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาว่าด้วยเรื่องมาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี พ.ศ.2557 และ การจัดการศึกษาเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) และกฎหมายอื่นที่ศูนย์การเรียนฯ ต้องอยู่ภายใต้บังคับให้ส่งข้อมูลส่วนบุคคล อันเป็นกรณีฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการประมวลผลและระยะเวลาในการเก็บรวบรวม

ประเภท/รายการข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม
1. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัคร, นักเรียน
ชื่อ-นามสกุล, ชื่อเล่น, อายุ, วันเดือนปีเกิด, ภูมิลำเนา,สถานที่เกิด, ที่อยู่, เบอร์โทร,ช่องทางการติดต่ออื่นๆ อาทิไลน์ เฟสบุ๊ค, รหัสประจำตัวประชาชน, สัญชาติ, รูปถ่าย, เลขบัญชีธนาคาร, ประวัติการศึกษา-การทำงาน, ข้อมูลพี่น้อง,ข้อมูลผู้ติดต่อเร่งด่วน,ข้อมูลความสามารถพิเศษ,ผลการประเมินการสัมภาษณ์เข้าศึกษา, บันทึกการสนทนาในตอบข้อซักถามและปัญหาของนักเรียน-นักศึกษา ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive Personal Data) เชื้อชาติ, ศาสนา, ข้อมูลสุขภาพ, น้ำหนัก, ส่วนสูง, ข้อมูลชีวภาพ (Biometrics)
2. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ปกครอง บิดา มารดา ของนักเรียน
ชื่อ-นามสกุล, ชื่อบิดามารดา, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อาชีพ, รายได้, สถานภาพสมรส ข้อมูลสถานที่ทำงาน ,ข้อมูลความสัมพันธ์กับนักเรียน
3. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ค้ำประกันและคู่สมรสของผู้ค้ำประกัน ของนักเรียน
ชื่อ-นามสกุล, อายุ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อาชีพ, ตำแหน่ง, สถานที่ทำงาน, รายได้, รหัสประจำตัวประชาชน ,ข้อมูลความสัมพันธ์กับนักเรียน
  • กรณีไม่ผ่านการพิจารณาเข้าศึกษาต่อ ศูนย์การเรียนฯ จะทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน เพื่อพิจารณาจัดสรรโควตาสำรองเพื่อให้สิทธิในการสมัครเรียนในอนาคต
  • กรณีผ่านการพิจารณาและทำสัญญาเป็นนักเรียน ศูนย์การเรียนฯ ทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียนบิดา มารดา ผู้ปกครอง ผู้ค้ำประกันและคู่สมรสไว้ตลอดระยะเวลาการเป็นนักเรียน และหลังพ้นสภาพการเป็นนักเรียน เป็นเวลา 10 ปี ตามระเบียบงานทะเบียนนักเรียนนักศึกษาตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ และตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับบริษัท

ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาข้างต้น ศูนย์การเรียนฯ จะทำการลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตนได้

3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก

ศูนย์การเรียนฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้แก่บริษัท ซีพีแรม จำกัด ตลอดจนหน่วยงานภายใน และสาขาต่าง ๆ ของบริษัท ซีพีแรม จำกัด ,บริษัทในกลุ่มของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), บริษัทในกลุ่มของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด, บริษัทในกลุ่มของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด, บริษัทในกลุ่มของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัทในกลุ่มของบริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ สถานศึกษาในเครือข่ายหรือตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) บริษัทหรือผู้ที่สนับสนุนทุนการศึกษา นายจ้างตามสัญญาฝึกอาชีพ ธนาคารในการจัดทำบัตรนักเรียน บริษัทประกันภัย ผู้ตรวจสอบทั้งภายในและภายนอก บริษัทที่ศูนย์การเรียนฯ ได้ว่าจ้างให้เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น กระทรวงศึกษาการ สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานตารวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล เป็นต้น หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ เป็นต้น

4. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิ (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมให้ศูนย์การเรียนฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (2) สิทธิในการเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่ศูนย์การเรียนฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (3) สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) สิทธิในการคัดค้าน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (5) สิทธิในการขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งไม่อาจระบุตัวตนได้ (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (7) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด (8) สิทธิที่จะร้องเรียนในกรณีที่ท่านเห็นว่าถูกศูนย์การเรียนฯ หรือเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของศูนย์การเรียนฯ ละเมิดสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษรหรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ศูนย์การเรียนฯ ได้จัดให้มีขึ้น และศูนย์การเรียนฯ จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยศูนย์การเรียนฯ จะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ อาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิของท่านบางประการ โดยศูนย์การเรียนฯ จะทำการชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้ โดยข้อจำกัดดังกล่าวเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด

การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น ศูนย์การเรียนขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

5. การเปลี่ยนแปลงPrivacy Notice)

เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 Privacy Notice) ฉบับนี้ อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราว โดยศูนย์การเรียนจะแสดงฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้ที่ศูนย์การเรียน

6.รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากมีเหตุร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อประสานงานมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ในช่องทางดังนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เลขที่ 313 อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ ชั้น 24 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
Email Address: Privacy@cpram.co.th

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์ - ซีพีแรม เลขที่ 177 หมู่ที่ 4 ถ.ปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี 12140
Email Address: Privacy@cpram.co.th
โทรศัพท์ 02-8448100

หากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ซีพีแรม จำกัด (“บริษัท”) เคารพในความเป็นส่วนตัวของท่าน และตระหนักถึงความสำคัญและมีความมุ่งมั่นในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้มอบให้แก่บริษัท ด้วยความไว้วางใจ รวมถึงบริษัทต้องการแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการและวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (“การประมวลผล”) ของท่าน สิทธิของท่านในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความโปร่งใสชัดเจน และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทขอให้ท่านโปรดอ่านเอกสารฉบับนี้เพื่อความเข้าใจถึงการประมวลผลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หากมีข้อสงสัยประการใดสามารถติดต่อบริษัท ได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่ปรากฏในเอกสารนี้

1. วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูล

1.1 วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล: บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาการสมัครและยกเลิกรถร่วมขนส่งสินค้า

1.2 ฐานในการประมวลผลข้อมูล: บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐาน ดังต่อไปนี้

  • ฐานสัญญา (Contract): บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามใบสมัครรถร่วมขนส่งสินค้า เพื่อใช้ในการพิจารณาคุณสมบัติในการจัดทำสัญญาจ้างเหมาขนส่ง การติดต่อสื่อสารกับท่านเพื่อแจ้งผลการรับสมัครและที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาการรับสมัคร รวมถึงเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามบันทึกขอยกเลิกการขนส่งสินค้า เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนและใช้เป็นหลักฐานในการชำระเงินและการคืนเงินประกัน หากท่านไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทไม่สามารถรับสมัคร หรืออาจไม่สามารถชำระเงินและคืนเงินประกันในการยกเลิกการขนส่งสินค้าได้
  • ฐานจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest): บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับส่งแบบประเมินเกี่ยวกับการขนส่ง การจัดทำรายงาน การตรวจสอบภายใน และการดำเนินคดีของบริษัท
  • ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation): บริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 (ใช้ในการตรวจสอบโรคและยาเสพติด), ประมวลรัษฎากร (นำส่งข้อมูลภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย หรือภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่กรมสรรพากร) และอาจส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับหน่วยงานราชการที่มีอำนาจตามกฎหมายในการเรียกขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานสอบสวน อัยการ ศาล เป็นต้น

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการประมวลผลและระยะเวลาในการเก็บรวบรวม

ประเภท/รายการข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม
การรับสมัครรถร่วมขนส่งสินค้า
ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, สถานที่ติดต่อ,เบอร์โทรศัพท์, อีเมล, สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์, สำเนาหน้าบัญชีธนาคาร, หมายเลขทะเบียนรถยนต์, สำเนารายการจดทะเบียนรถยนต์, สำเนากรมธรรม์ประกันภัย , หลักฐานการเสียภาษี (ป้ายวงกลม)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)
ใบรับรองแพทย์ (ตรวจสารเสพติด, โรคติดต่ออันเป็นที่รังเกียจ)

การยกเลิกรถร่วมขนส่งสินค้า
สำนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, บัตรพนักงานขนส่งสินค้า, สำเนารายการจดทะเบียนรถยนต์
กรณีรับสมัคร เก็บไว้ 3 ปี นับจากวันที่ท่านส่งใบสมัคร เก็บไว้ 10 ปี นับจากวันที่ส่งเอกสารแจ้งยกเลิกรถร่วมขนส่งสินค้า

ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาข้างต้น บริษัทจะทำการลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

3. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิ (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (2) สิทธิในการเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (3) สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) สิทธิในการคัดค้าน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (5) สิทธิในการขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งไม่อาจระบุตัวตนได้ (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (7) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด (8) สิทธิที่จะร้องเรียนในกรณีที่ท่านเห็นว่าถูกบริษัทหรือเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของบริษัทละเมิดสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ อาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิของท่านบางประการ โดยบริษัทจะทำการชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้ โดยข้อจำกัดดังกล่าวเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด

การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูล ส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

4. การเปลี่ยนแปลงPrivacy Notice)

เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 Privacy Notice) ฉบับนี้ อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราว โดยบริษัทจะแจ้งไว้ที่ https://www.cpram.co.th/th/privacy-notice หรือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อไป

5. รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากมีเหตุร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อประสานงานมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ในช่องทางดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
เลขที่ 313 อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ ชั้น 24 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
Email Address: privacy@cpram.co.th
บริษัท ซีพีแรม จำกัด เลขที่ 177 หมู่ 4 ถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี 12140
Email Address: privacy@cpram.co.th

หากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เนื่องจาก บริษัท ซีพีแรม จำกัด (“บริษัท”) เคารพในความเป็นส่วนตัวของท่าน และตระหนักถึงความสำคัญและมีความมุ่งมั่นในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้มอบให้แก่บริษัท ด้วยความไว้วางใจ รวมถึงบริษัทต้องการแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการและวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (“การประมวลผล”) ของท่าน สิทธิของท่านในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท โดยบริษัท จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความโปร่งใสชัดเจน และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทขอให้ท่านโปรดอ่านเอกสารฉบับนี้เพื่อความเข้าใจถึงการประมวลผลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หากมีข้อสงสัยประการใดสามารถติดต่อบริษัท ได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่ปรากฏในเอกสารนี้

1. วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูล

วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล : บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะตัวแทน/ ผู้ประสานงานของบริษัทของท่าน (“ผู้ส่งมอบ”) เพื่อใช้ในการสร้างบัญชีผู้ใช้งานระบบ Web Audit Supplier Online และ Website ที่เกี่ยวเนื่อง สำหรับการติดต่อทำการนัดหมายการเข้าตรวจประเมิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าวหรือที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าของผู้ส่งมอบ

ฐานในการประมวลผลข้อมูล : บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐาน ดังต่อไปนี้

❒ ฐานจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest): บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้งาน การนัดหมายการตรวจประเมินผู้ส่งมอบ (Audit Supplier) การสรุปผลรายงานการเข้าตรวจสอบผู้ส่งมอบ การแจ้งอัพเดทข้อมูลข่าวสารหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าของผู้ส่งมอบ การติดต่อกรณีพบปัญหาการเข้าใช้งานระบบ ทั้งนี้ เป็นไปตามสัญญาระหว่างบริษัทและผู้ว่าจ้างหรือนายจ้างของท่าน ซึ่งท่านไม่ได้เป็นคู่สัญญาด้วย รวมถึงอาจประมวลผลข้อมูลเพื่อตรวจสอบตัวตนของท่าน การบริหารจัดการของบริษัท การจัดทำรายงานของบริษัท การตรวจสอบภายในของบริษัท และการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องในทางกฎหมาย

❒ ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation): บริษัทอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับหน่วยงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการประมวลผลและระยะเวลาในการเก็บรวบรวม

ประเภท/รายการข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม
ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, สถานที่ติดต่อ,เบอร์โทร, email ตลอดระยะเวลาการซื้อขาย และจะลบภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ได้ยกเลิกการซื้อขาย

ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาข้างต้น บริษัทจะทำการลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

3. แหล่งที่มาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้ว่าจ้างหรือนายจ้างของท่านที่บริษัทเป็นคู่สัญญาด้วย

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สามที่จำเป็นสำหรับการดำเนินตามวัตถุประสงค์และฐานการประมวลผลที่ระบุไว้ตามข้อ 1 เช่น การเปิดเผยต่อพนักงานและบริษัทที่บริษัทได้ว่าจ้างให้ทำหน้าที่เป็นผู้ประมวลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ และผู้ตรวจสอบบัญชี รวมไปถึงบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่หน่วยงานที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูล ส่วนบุคคล เช่น พนักงานสอบสวน อัยการ เป็นต้น และอาจมีการเปิดเผยให้หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีของบริษัทเองด้วย

5. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิ (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (2) สิทธิในการเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (3) สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) สิทธิในการคัดค้าน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (5) สิทธิในการขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งไม่อาจระบุตัวตนได้ (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (7) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด (8) สิทธิที่จะร้องเรียนในกรณีที่ท่านเห็นว่าถูกบริษัทหรือเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของบริษัทละเมิดสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ อาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิของท่านบางประการ โดยบริษัทจะทำการชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตาม คำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้ โดยข้อจำกัดดังกล่าวเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด

การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

6. การเปลี่ยนแปลงPrivacy Notice)

เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 Privacy Notice) ฉบับนี้ อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราว โดยบริษัทจะแสดงฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้ที่ระบบ Audit Supplier (https://app.cpram.co.th/auditsupplier/index.jsp)

7. รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากมีเหตุร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อประสานงานมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ในช่องทางดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เลขที่ 313 อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ ชั้น 24 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
Email Address: Privacy@cpram.co.th

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ซีพีแรม จำกัด
เลขที่ 177 หมู่ที่ 4 ถ.ปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี 12140
Email Address: Privacy@cpram.co.th

หากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ซีพีแรม จำกัด (“บริษัท”) เคารพในความเป็นส่วนตัวของท่าน และตระหนักถึงความสำคัญและมีความมุ่งมั่น ในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้มอบให้แก่บริษัทด้วยความไว้วางใจ รวมถึงบริษัทต้องการแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการ และวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (“การประมวลผล”) ของท่าน สิทธิของท่านในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความโปร่งใสชัดเจน และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทขอให้ท่านโปรดอ่านเอกสารฉบับนี้เพื่อความเข้าใจถึงการ ประมวลผลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หากมีข้อสงสัยประการใดสามารถติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่ ปรากฏในเอกสารนี้

1. วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูล

1.1. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล: บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อใช้ในการวิจัยเกี่ยวกับการรับรู้และทัศนคติด้านต่างๆ ของหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ขององค์กร (โครงการ CPRAM Corporate Brand Health Check) โดยนำข้อมูลมาวิเคราะห์ จัดทำสถิติ เพื่อประเมินการรับรู้ และภาพลักษณ์ของบริษัทในมุมมองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การประเมินความผูกพันต่อบริษัท และสำรวจความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) แต่ละกลุ่ม เพื่อบ่งชี้เรื่องที่บริษัทจะต้องปรับปรุงและพัฒนา และนำไปใช้จัดลำดับประเด็นสำคัญของนโยบายความยั่งยืน ซึ่งข้อมูลที่ได้จะถูกนำไปใช้ในการวิเคราะห์ประมวลผลเชิงสถิติในภาพรวมเท่านั้น รวมถึงการติดต่อกลับไปยังท่านเพื่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานวิจัย

1.2 ฐานในการประมวลผลข้อมูล:

  • ฐานจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest): กรณีที่ท่านเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่บริษัทมีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการร่วมงานหรือติดต่องานกับบริษัท เช่น พนักงาน คู่ค้า บริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทผู้รับจ้างทำวิจัย เพื่อติดต่อท่านสอบถามข้อมูลมาทำวิจัยตามวัตถุประสงค์ในข้อ 1.1
  • ฐานความยินยอม (Consent): กรณีที่ท่านเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่บริษัทไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ในข้อ 1.1 ภายใต้ฐานความยินยอมนี้

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการประมวลผลและระยะเวลาในการเก็บรวบรวม

2.1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม อันได้แก่

  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์บ้านหรือมือถือ อีเมล
  • ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เพศ อายุ อาชีพ สถานภาพ (โสด/สมรส)
  • รายได้ส่วนตัว รายได้ครัวเรือน
  • คำตอบหรือความคิดเห็นของการตอบคำถาม เช่น มุมมองหรือภาพลักษณ์ที่มีต่อบริษัท ความเชื่อมั่นในระดับสากล ความผูกพันธ์ที่มีต่อองค์กร ความประทับใจและสิ่งที่ต้องปรับปรุง ประเด็นความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงบทสรุปและข้อเสนอแนะ

2.2 ระยะเวลาการจัดเก็บ 5 ปี นับจากวันที่สิ้นสุดโครงการ ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาข้างต้น บริษัทจะทำการลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก

บริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท นีลเส็นไอคิว (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับจ้างทำวิจัย เท่าที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งให้ทราบตามข้อ 1.1

4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น

บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัท นีลเส็นไอคิว (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับจ้างทำวิจัยที่บริษัทได้ว่าจ้าง โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมและใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ทราบตามข้อ 1.1

5. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิ (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (2) สิทธิในการเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (3) สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

ของท่าน (4) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (5) สิทธิในการขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งไม่อาจระบุตัวตนได้ (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (7) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด (8) สิทธิที่จะร้องเรียนในกรณีที่ท่าน เห็นว่าถูกบริษัทหรือเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของบริษัทละเมิดสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ อาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิของท่านบางประการ โดยบริษัทจะทำกำรชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้ โดยข้อจำกัดดังกล่าวเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด

การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

6. การเปลี่ยนแปลงPrivacy Notice)

เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 Privacy Notice) ฉบับนี้ อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราว โดยบริษัทจะแจ้งให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรต่อไป

7. รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากมีเหตุร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อประสานงานมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ในช่องทางดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เลขที่ 313 อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ ชั้น 24 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
Email Address: privacy@cpram.co.th

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ซีพีแรม จำกัด
เลขที่ 177 หมู่ที่ 4 ถ.ปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี
Email Address: DPC@cpram.co.th
โทรศัพท์:
02-844-8100 ต่อ 1833